ไบร์ทตันแทงบอล เก่งได้เพราะนักพนัน ที่ไบร์ทตันพัฒนามาได้ขนาดนี้ ทุกคนอาจจะยกผลประโยชน์ให้กับ เกรย์แฮม พอตเตอร์ อดีตกุนซือคนสำคัญเก่งของทีมที่สร้างระบบทีมขึ้นมา หรือจะเป็น โรแบร์โต เด แซร์บี ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันที่สามารถสืบทอดระบบทีมต่างๆ จากพอตเตอร์มาได้อย่างลงตัว แต่จริงๆแล้วเบื้องหลังทั้งหมดนั้น มาจากอดีตสุดยอดนักโป๊กเกอร์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า โทนี่ บลูม
โทนี่บลูม คือใคร แล้วทำไมเขาถึงรักการพนัน
โทนี่ บลูม เป็นเศรษฐีนักธุรกิจวัย 53 ปีเป็นเจ้าของสโมสรไบร์ทตัท เขายอมรับออกมาเต็มปากเลยว่า สร้างชื่อให้ตัวเองจากการเป็นนักพนัน โดยเฉพาะการเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งอาจจะไม่ดีต่อเยาวชนแต่มันคือข้อเท็จจริง เขาบอกว่าเขาหลงรักการพนันมาก ชื่นชอบการเล่นสล็อตมาตั้งแต่ 8 ขวบ
บลูมยอมรับว่าเขาเคยปลอมบัตรประจำตัวเพื่อใช้เข้าร้านรับพนันตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี ซึ่งกฎหมายของอังกฤษระบุว่าต้องมีอายุ 18 ปีเสียก่อน โรเจอร์ ซอว์นเดอร์ส อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนในวัยประถมของบลูม เปิดเผยผ่าน The Athletic ว่า “เขาเป็นเด็กที่เก่งแทบทุกรายวิชา แต่คณิตศาสตร์คือสิ่งที่เขาช่ำชองมาก เขาสามารถแก้โจทย์ได้อย่างรวดเร็ว” ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้บลูมหลงใหลในตัวเลข และนำไปสู่ความคลั่งไคล้ในการพนัน
สุดยอดนักโป๊กเกอร์ที่เก่งที่สุด
- เขาเริ่มเข้าสู่วงการในปี 1994 ภายใต้ฉายา “The Lizard“ อันหมายถึงสไตล์การเล่นที่สุขุมเยือกเย็น แม้จะตกอยู่ท่ามกลางความกดดันจากเดิมพันมูลค่าสูง และยังคงลงทำการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง
- พร้อมกับคว้าแชมป์ 2022 Poker Masters ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา
- เมื่อเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมาในฐานะนักพนันผู้ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง บลูมปรับเอาเทคนิคในการพนันของเขามาใช้กับไบรท์ตัน
- เพื่อให้สโมสรแห่งนี้ก้าวนำคู่แข่งได้อยู่เสมอ บลูมได้ศึกษาระบบการพนันแบบแฮนดิแคป ในช่วงเวลาที่เขามาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ
- กับยิบรอลตาร์ จนมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดมาสู่วงการฟุตบอล และก่อตั้งบริษัท “Starlizard” ขึ้นมา
ภูมิใจลงทุนกับสโมสรในดวงใจของตนเอง
อย่างที่ทราบในตอนต้นว่า โทนี่ บลูม สร้างฐานะมาจากการเป็นนักพนันอาชีพ และเขาก็ได้กลับมาช่วยลงทุนกับสโมสรในดวงใจของเขาอีกครั้ง โดยเฉพาะการทุ่มทุน 93 ล้านปอนด์ให้ ดิ๊ก ไนท์ เจ้าของสโมสร เพื่อใช้สร้างสนามเหย้าแห่งใหม่
แลกกับการเข้ามาเป็นเจ้าของหลักแทนที่ไนท์ผู้ถูกเลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นประธานสโมสรแทน ในตอนนี้ไบรท์ตันสามารถย้ายจากสนามวิทดีน ที่มีความจุน้อยกว่า 9,000 ที่นั่ง มาที่รังเหย้าใหม่อย่างฟัลเมอร์ หรือสนาม AMEX สเตเดียม ตามลิขสิทธิ์โฆษณา อันมีความจุ 31,800 ที่นั่งในปัจจุบัน ซึ่งด้วยประชากรในท้องถิ่นที่มีมากถึง 475,000 คน นี่คือโอกาสที่ทีมของบลูมจะกอบโกยรายได้เข้ามาได้จริงจังเสียที
ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย
ในยุคที่ข้อมูลมีอยู่มากมาย ไบรท์ตันได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันทรงพลังจากการนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างถูกจุด และมีโอกาสสูงที่การลงทุนในครั้งนี้ของพวกเขาจะนำพาเกมฟุตบอลยุโรปเข้ามาสู่เมืองริมทะเลแห่งนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 121 ปีของสโมสรเลยทีเดียว ทีนี้ก็เหลือแค่เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
